(1) ก่อนวันพระราชทานปริญญาบัตร
1.1 บัณฑิตทุกคนควรได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามแนวทางการให้วัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทย จากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขหรือองค์การอนามัยโลกกําหนด
1.1.1 กรณียังไม่เคยรับวัคซีน หรือได้รับวัคซีน 1 หรือ 2 เข็ม ขอให้เข้ารับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 และวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เข็มกระตุ้น ตามแนวทาง การให้วัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทย จากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข หรือองค์การ อนามัยโลกกําหนด โดยเร็ว
1.1.2 กรณีได้รับวัคซีน 2 เข็ม เป็นชนิด Pfizer หรือ Moderna หรือได้รับวัคซีนตั้งแต่ 3 เข็มขึ้นไป และเข็มสุดท้าย เป็นชนิด AstraZeneca, Moderna หรือ Pfizer ขอให้บัณฑิตแสดง เอกสารรับรองการได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 รายงานผ่านระบบของ มหาวิทยาลัย ได้ที่ https://covid19screening.mahidol.ac.th (นําเข้าครั้งแรกครั้งเดียว ก่อนวันซ้อมย่อย) เปิดระบบตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไป
1.1.3 กรณีไม่สามารถรับวัคซีน เนื่องจากเป็นผู้ที่มีโรคเรื้อรัง โรคประจําตัว หรือแพ้ยาและแพทย์ลงความเห็นว่า ไม่สามารถฉีดวัคซีนได้ หรือเป็นผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และ ได้รับการรักษาหายแล้ว ก่อนวันซ้อมย่อย ให้นําหลักฐานใบรับรองแพทย์ ไปแสดงต่อคณะ/ สถาบันที่ตนเองสําเร็จการศึกษา
1.2 ขอความร่วมมือให้บัณฑิตทุกคนดูแลสุขภาพตนเองให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ และสังเกตอาการผิดปกติของตนเอง เช่น มีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ํามูก ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ หอบเหนื่อย ได้กลิ่นลดลง เป็นต้น หากพบอาการดังกล่าวให้บัณฑิตไปพบแพทย์โดยทันที
1.3 หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่ที่มีคนหนาแน่นหรือพื้นที่เสี่ยง เช่น สถานบันเทิง ผับ บาร์ และโรงภาพยนตร์ เป็นต้น
(2) วันซ้อมย่อย
2.1 บัณฑิตที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามแนวทางการให้วัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทย จากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขหรือองค์การอนามัยโลกกําหนด ต้องแสดงเอกสารรับรอง การได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จํานวน 2 เข็ม เป็นชนิด Pfizer หรือ Moderna หรือ ตั้งแต่ 3 เข็มขึ้นไป และเข็มสุดท้าย เป็นชนิด AstraZeneca, Moderna หรือ Pfizer โดยรายงานเอกสารรับรองการได้รับการฉีดวัคซีน ป้องกันโรคโควิด-19 ผ่านระบบของมหาวิทยาลัย ได้ที่ https://covid19screening.mahidol.ac.th (นําเข้าครั้งแรก ครั้งเดียวก่อนวันซ้อมย่อย)
บัณฑิตจะต้องตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสด้วยชุดตรวจ Self ATK (Antigen Test Kit) ตรวจด้วย ตนเอง ไม่เกิน 48 ชั่วโมงก่อนวันซ้อมย่อย ซึ่งบัณฑิตต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง โดยให้แสดงภาพถ่ายผลการตรวจ ด้วยตนเองถ่ายคู่กับบัตรประชาชน ซึ่งต้องไม่พบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) รายงานตามข้อกําหนดของแต่ละ ส่วนงาน มหาวิทยาลัยขอสงวนสิทธิ์ในการไม่อนุญาตบัณฑิตที่มีผลพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในการเข้าร่วมกิจกรรม วันซ้อมย่อย วันซ้อมใหญ่ และวันพระราชทานปริญญาบัตร
2.2 สําหรับบัณฑิตที่ยังไม่เคยรับวัคซีน ให้รายงานการไม่เคยรับวัคซีน พร้อมทั้งระบุสาเหตุ หรือแสดง ใบรับรองแพทย์ ผ่านระบบของมหาวิทยาลัย กรณีได้รับวัคซีนไม่ครบ 3 เข็ม หรือได้รับวัคซีนไม่ตรงตามเงื่อนไขที่ มหาวิทยาลัยกําหนด ในข้อ 2.1 ต้องแสดงเอกสารรับรองการได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ผ่านระบบของ มหาวิทยาลัย ได้ที่ https://covid19screening.mahidol.ac.th (นําเข้าครั้งแรกครั้งเดียวก่อนวันซ้อมย่อย)
บัณฑิตจะต้องตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสด้วยชุดตรวจ Professional ATK (Antigen Test Kit) จากสถานพยาบาลหรือโรงพยาบาล ไม่เกิน 48 ชั่วโมงก่อนวันซ้อมย่อย ซึ่งบัณฑิตต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง โดยให้ แสดงภาพถ่ายผลการตรวจถ่ายคู่กับบัตรประชาชน ซึ่งต้องไม่พบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) รายงานตาม ข้อกําหนดของแต่ละส่วนงาน มหาวิทยาลัยขอสงวนสิทธิ์ในการไม่อนุญาตบัณฑิตที่มีผลพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในการเข้าร่วมกิจกรรมวันซ้อมย่อย วันซ้อมใหญ่ และวันพระราชทานปริญญาบัตร
2.3 บัณฑิตทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย ตรวจวัดอุณหภูมิ ณ จุดคัดกรอง รักษาระยะห่างทางกายภาพ และ ทําความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์สม่ําเสมอ หากตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายสูงเกินกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ให้นั่งพัก 10 นาที เพื่อรอตรวจวัดซ้ํา และหากอุณหภูมิไม่ลด จะเข้าสู่กระบวนการประเมินความเสี่ยงโรคโควิด-19 ต่อไป
2.4 กรณีบัณฑิตที่อยู่ในข่ายผู้สัมผัสความเสี่ยงสูง ให้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ในวันรายงานตัวของการฝึกซ้อมย่อย เพื่อทราบ และขอให้สวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธีตลอดเวลา
2.5 กรณีบัณฑิตที่เป็นผู้ป่วยด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และได้รับการรักษาหายแล้ว ต้องมีใบรับรองแพทย์มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ในวันรายงานตัวของการฝึกซ้อมย่อย และขอให้สวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธีตลอดเวลา
(3) วันซ้อมใหญ่
3.1 บัณฑิตที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามแนวทางการให้วัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทย จากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขหรือองค์การอนามัยโลกกําหนด จํานวน 2 เข็ม เป็นชนิด Pfizer หรือ Moderna หรือ ตั้งแต่ 3 เข็มขึ้นไป และเข็มสุดท้าย เป็นชนิด AstraZeneca, Moderna หรือ Pfizer
บัณฑิตจะต้องตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสด้วยชุดตรวจ Self ATK (Antigen Test Kit) ตรวจด้วย ตนเอง ไม่เกิน 48 ชั่วโมงก่อนวันซ้อมใหญ่ ซึ่งบัณฑิตต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง โดยให้แสดงภาพถ่ายผลการตรวจ ด้วยตนเองถ่ายคู่กับบัตรประชาชน ซึ่งต้องไม่พบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) รายงานผ่านระบบของ มหาวิทยาลัย ได้ที่ https://covid19screening.mahidol.ac.th มหาวิทยาลัยขอสงวนสิทธิ์ในการไม่อนุญาตบัณฑิต ที่มีผลพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในการเข้าร่วมกิจกรรมวันซ้อมใหญ่ และวันพระราชทานปริญญาบัตร
3.2 สําหรับบัณฑิตที่ยังไม่เคยรับวัคซีน หรือได้รับวัคซีนไม่ครบ 3 เข็ม หรือได้รับวัคซีนไม่ตรงตามเงื่อนไข ที่มหาวิทยาลัยกําหนด ในข้อ 3.1
บัณฑิตจะต้องตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสด้วยชุดตรวจ Professional ATK (Antigen Test Kit) จากสถานพยาบาลหรือโรงพยาบาล ไม่เกิน 48 ชั่วโมงก่อนวันซ้อมใหญ่ ซึ่งบัณฑิตต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง โดยให้ แสดงภาพถ่ายผลการตรวจถ่ายคู่กับบัตรประชาชน ซึ่งต้องไม่พบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) รายงานผ่าน ระบบของมหาวิทยาลัย ได้ที่ https://covid19screening.mahidol.ac.th มหาวิทยาลัยขอสงวนสิทธิ์ในการ ไม่อนุญาตบัณฑิตที่มีผลพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในการเข้าร่วมกิจกรรมวันซ้อมใหญ่ และวันพระราชทานปริญญาบัตร
3.3 บัณฑิตทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย ตรวจวัดอุณหภูมิ ณ จุดคัดกรอง รักษาระยะห่างทางกายภาพ และทําความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์สม่ําเสมอ หากตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายสูงเกินกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ให้นั่งพัก 10 นาที เพื่อรอตรวจวัดซ้ํา และหากอุณหภูมิไม่ลด จะเข้าสู่กระบวนการประเมินความเสี่ยงโรคโควิด-19 โดยเข้ารับการตรวจคัดกรองหาสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสด้วยชุดตรวจ Professional ATK (Antigen Test Kit) ณ จุดคัดกรองที่มหาวิทยาลัยจัดไว้ให้เท่านั้น หากผลการตรวจคัดกรองโรคยืนยันว่าบัณฑิตไม่พบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จึงจะสามารถเข้าร่วมกิจกรรมวันซ้อมใหญ่ได้ มหาวิทยาลัยขอสงวนสิทธิ์ในการไม่อนุญาตบัณฑิตที่มีผลพบเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 ในการเข้าร่วมกิจกรรมวันซ้อมใหญ่ และวันพระราชทานปริญญาบัตร
3.4 กรณีบัณฑิตที่อยู่ในข่ายผู้สัมผัสความเสี่ยงสูง ให้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ในวันรายงานตัวของการฝึกซ้อมใหญ่ เพื่อทราบ และขอให้สวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธีตลอดเวลา
3.5 กรณีบัณฑิตที่เป็นผู้ป่วยด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และได้รับการรักษาหายแล้ว ต้องมีต้องมีใบรับรองแพทย์มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ในวันรายงานตัวของการฝึกซ้อมใหญ่ และขอให้สวมหน้ากากอนามัย อย่างถูกวิธีตลอดเวลา
(4) วันพระราชทานปริญญาบัตร
4.1 บัณฑิตที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามแนวทางการให้วัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทย จากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขหรือองค์การอนามัยโลกกําหนด จํานวน 2 เข็ม เป็นชนิด Pfizer หรือ Moderna หรือ ตั้งแต่ 3 เข็มขึ้นไป และเข็มสุดท้าย เป็นชนิด AstraZeneca, Moderna หรือ Pfizer
บัณฑิตจะต้องตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสด้วยชุดตรวจ Self ATK (Antigen Test Kit) ตรวจด้วย ตนเอง ไม่เกิน 48 ชั่วโมงก่อนวันพระราชทานปริญญาบัตร ซึ่งบัณฑิตต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง โดยให้แสดง ภาพถ่ายผลการตรวจด้วยตนเองถ่ายคู่กับบัตรประชาชน ซึ่งต้องไม่พบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) รายงาน ผ่านระบบของมหาวิทยาลัย ได้ที https://covid19screening.mahidol.ac.th มหาวิทยาลัยขอสงวนสิทธิ์ในการ ไม่อนุญาตบัณฑิตที่มีผลพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร
4.2 สําหรับบัณฑิตที่ยังไม่เคยรับวัคซีน หรือได้รับวัคซีนไม่ครบ 3 เข็ม หรือได้รับวัคซีนไม่ตรงตามเงื่อนไขที่ มหาวิทยาลัยกําหนด ในข้อ 4.1
บัณฑิตจะต้องตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสด้วยวิธี RT-PCR (Real Time PCR) จากสถานพยาบาล หรือโรงพยาบาล ไม่เกิน 48 ชั่วโมงก่อนวันพระราชทานปริญญาบัตร ซึ่งบัณฑิตต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง โดยให้ แสดงภาพถ่ายผลการตรวจถ่ายคู่กับบัตรประชาชน ซึ่งต้องไม่พบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) รายงานผ่าน ระบบของมหาวิทยาลัย ได้ที่ https://covid19screening.mahidol.ac.th มหาวิทยาลัยขอสงวนสิทธิ์ในการ ไม่อนุญาตบัณฑิตที่มีผลพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร
4.3 บัณฑิตทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย ตรวจวัดอุณหภูมิ ณ จุดคัดกรอง รักษาระยะห่างทางกายภาพ และทําความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์สม่ําเสมอ หากตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายสูงเกินกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ให้นั่งพัก 10 นาที เพื่อรอตรวจวัดซ้ํา และหากอุณหภูมิไม่ลด จะเข้าสู่กระบวนการประเมินความเสี่ยงโรคโควิด-19 โดยเข้ารับการตรวจคัดกรองหาสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสด้วยชุดตรวจ Professional ATK (Antigen Test Kit) ณ จุดคัดกรองที่มหาวิทยาลัยจัดไว้ให้เท่านั้น หากผลการตรวจคัดกรองโรคยืนยันว่าบัณฑิตไม่พบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จึงจะสามารถเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรได้ ในกรณีที่ผลการตรวจด้วยชุดตรวจ Professional ATK (Antigen Test Kit) ณ จุดคัดกรองที่มหาวิทยาลัยจัดไว้ให้ แสดงผลเป็นบวกขึ้นสองขีด (Positive) พบเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 มหาวิทยาลัยขอสงวนสิทธิ์ในการไม่อนุญาตบัณฑิตที่มีผลพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในการเข้ารับ พระราชทานปริญญาบัตร
4.4 กรณีบัณฑิตที่อยู่ในข่ายผู้สัมผัสความเสี่ยงสูง ให้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ในวันรายงานตัวขอเข้ารับพระราชทาน ปริญญาบัตรเพื่อทราบ และขอให้สวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธีตลอดเวลา
4.5 กรณีบัณฑิตที่เป็นผู้ป่วยด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และได้รับการรักษาหายแล้ว ต้องมีใบรับรองแพทย์มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ในวันรายงานตัวขอเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร และขอให้สวม หน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธีตลอดเวลา
4.6 หากบัณฑิตมีอาการผิดปกติ เช่น มีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ํามูก ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ หอบเหนื่อย ได้กลิ่น ลดลง เป็นต้น ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ส่วนงานหรือเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยทราบโดยเร็ว
(5) ภายใน 14 วัน หลังจากพิธีพระราชทานปริญญาบัตรเสร็จสิ้นไปแล้ว ให้บัณฑิตปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของกระทรวงสาธารณสุข D-M-H-T-T-A (รักษาระยะห่างทางกายภาพ-สวมใส่ แมสก์-ล้างมืออย่างสม่ําเสมอ-ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย-เมื่อพบว่ามีความเสี่ยงตรวจหาเชื้อด้วยATK-ใช้แอปพลิเคชัน) อย่างเคร่งครัด หากพบว่ามีการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) แจ้งกลับมายังส่วนงานที่สังกัดทราบโดยเร็ว เพื่อดําเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามมาตรการของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
(6) หากมีกรณีเป็นที่สงสัยเกี่ยวกับอาการหรือความเสี่ยงต่อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้เป็นอํานาจ ของประธานคณะกรรมการจัดงานพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ประจําปีการศึกษา 2563 และประจําปีการศึกษา 2564 เป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด และให้ถือเป็นที่สุด